ถ้วยใบแรกกับความประทับใจในงานวิ่งรพ.กำแพงเพชร ^O^
เช้าวันเสาร์ในวันออกเดินทาง ฉันได้ทำขนมยิ้ม ๆ ไปแจกเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ด้วย มันเป็นขนมที่ฉันกับแม่ชอบกิน และฉันไม่ได้ทำนานแล้ว แม่อยากกินพอดี เป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันจะวิ่งที่กำแพงเพชร ฉันเลยเอาขนมแบ่งให้ทุก ๆ คน ที่ร่วมเดินทางได้ลองชิม และพอดีเป็นวันเกิดเพื่อนคนหนึ่งที่ร่วมเดินทางไปด้วย ฉันตั้งใจทำให้ทุกคนเลยหล่ะ ดีใจมากจริง ๆ นะ ที่ทุกคนชอบ และบอกว่าอร่อยดี นี่เป็นความสุขเล็ก ๆ ของฉันเลย ขอบคุณทุก ๆ คนจากใจค่ะ ^O^
ระหว่างเดินทางเพื่อนฉันเอาคอมเสริตพี่เบิร์ดไปเปิดด้วย สร้างความคึกคัก สนุกดีการได้ดูคอนเสริตด้วยกันหลาย ๆ คน สนุกกว่าดูคนเดียวเยอะเลย จริง ๆ นะ ฉันสนุกมาก คิดในใจขอบคุณเพื่อนฉัน ที่เอาแผ่นมาด้วย ขอบคุณนะจ๊ะ ^O^
คอนเสริตจบฉันก็บอกทุกคนว่าอยากดูรัก 7 ปี ดี 7 หน ตอน 42.195 ฉันเอาไปด้วย และเปิดให้ทุกคนดูพร้อมกัน เพราะพี่สาวคนหนึ่งยังไม่ได้ดูเลย และฉันก็อยากดู ปลุกใจก่อนวิ่งน่ะ นิชคุช น่ารักมากก ฉันดูทีไรนึกว่า ฉันเป็นนางเอกทุกที จริง ๆ นะ พี่สู่ขวัญแสดงได้ดีมากก ฉันอินมาก ๆ เลยหล่ะ 555 ^O^
พอตอนเย็นครูก็นำวิ่งเบา ๆ ที่สนามจริง เราวิ่งกันเบา ๆ สนามสวยมาก บรรยากาศร่มรื่น มีเนินเล็กน้อย ฉันก็วิ่งไปถ่ายรูปไป ฟินสุด ๆ เลยหล่ะ
ในเช้าวันวิ่งจริงฉันตื่นตี 2.30 แล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง จนตี 3.30 นาฬิกาปลุกก็ดัง ฉันลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อม ตั้งใจจะทำ New PB ให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนฉัน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี จนถึงเวลาปล่อยตัวนักวิ่งมินิ 10.50 กม.ฉันเช็คอิน และเข้าไปรอที่จุดปล่อยตัว รอตรงหน้า ๆ พอสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้น
ฉันก็วิ่งใส่เต็ม กม.แรก ฉันวิ่งได้ 5.18 นาที ฉันคิดในใจว่า ถ้าความรู้สึกเหนื่อยหอบระดับนี้ มันเร็วไป ฉันลดความเร็วลงนิดหน่อย กม. 2 ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยมาก ฉันงง ฉันไม่เคยเหนื่อยแบบนี้ พอกม. 3 ก็ความเร็วเริ่มตก นี่เพิ่งต้น ๆ เองนะ ทำไมฉันเหนื่อยจัง แต่ฉันก็วิ่งไปเรื่อย ๆ พยายามรักษาจังหวะ แล้วแต่ละคนก็ค่อย ๆ แซงไป ฉันไม่สามารถเร่งขึ้นมาได้เลย มันเหนื่อยมาก
พอกลับตัววิ่งมาอีกสักพักก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งมาขอเกาะฉันด้วย ฉันก็บอกว่าได้ แต่ของกินน้ำก่อนนะ เข้าจุดกินน้ำพอดีน่ะ น้องเกาะฉันมาได้ สักพัก ฉันรู้สึกมันเหนื่อยกว่าเดิม เหนื่อยกว่าตอนวิ่งคนเดียว ไม่ไหวแล้ว ฉันเลยเร่งความเร็วหนีน้องขึ้นมา น้องเขาก็แยกออกไปวิ่งเอง ฉันก็บอกน้องสู้ ๆ นะ น้องเขายิ้มให้แล้วก็แซงฉันไป ฉันเองก็งง น้องเขามาขอเกาะทำไม? แต่ช่างเถอะ ฉันก็วิ่งไปเรื่อย ๆ กม.ที่ 7 ฉันก็ค่อย ๆ เร่งขึ้น ไม่คิดแซงใครเลยเพราะฉันเหนื่อยมาก คิดแค่เข้าเส้นชัยให้ได้ อีกนิดเดียว
ฉันไม่คิดว่าจะได้ถ้วยด้วยหล่ะ เพราะฉันเหนื่อยสุด ๆ แต่ก็วิ่งตลอดไม่มีหยุดเดินเลย จนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1.03 ชม. ระยะทางทั้งหมด 10.31 กม. ในที่สุด ฉันงง และดีใจมาก ที่ฉันได้อันดับ 2 รุ่น 30-39 ปี และฉันดีใจเข้าไปอีกที่รู้ว่า อันดับ 1,3,4 เป็นพี่สาวที่น่ารักของฉันเอง ^O^
ฉันดีใจกับพี่ ๆ ฉันด้วย ฉันดีใจกับทุก ๆ คนที่ได้ถ้วย ฉันดีใจกับทุกคนที่ได้สถิติใหม่ ฉันดีใจกับพี่ชายฉันที่จัดงานวิ่งนี้ขึ้นมา แล้วทุกคนมาวิ่ง ทีมงานน่ารัก และบรรยากาศสนุกมาก
ถึงฉันจะไม่สามารถทำ New PB เป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อนฉันได้ แต่ฉันก็ดีใจที่ได้ถ้วยใบแรก ฉันเต็มที่แล้ว ถ้วยใบนี้คือความภูมิใจ ฉันไม่ได้คิดแข่งกับใคร ถึงฉันไม่ได้ถ้วยฉันก็ดีใจกับทุกคนที่ได้ถ้วย ฉันรู้ว่ากว่าจะได้มาต้องเหนื่อยขนาดไหน ต้องฝืนตัวเองขนาดไหน ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ หรอกฉันพูดจริง ๆ นะ ^O^
สำหรับฉันการจะได้ถ้วยหรือไม่ได้ถ้วยไม่ได้สำคัญอะไรกับฉัน เท่ากับการที่ฉันสามารถสร้างสถิติใหม่ให้ตัวฉันเองได้เรื่อย ๆ ฉันอยากวิ่งไปนาน ๆ อยากวิ่งให้เต็มที่ และสนุกที่สุด
หลายคนบอกว่าฉันวิ่งเร็ว ฉันไม่เคยคิดว่าฉันวิ่งเร็ว ฉันคิดแค่ว่าฉันสนุกที่ได้วิ่ง และได้ทำเต็มที่ ถ้าใครเห็นเวลาฉันซ้อมจะรู้เลยว่า ฉันฝืนตัวเองสุด ๆ เพื่อที่จะวิ่งสนุกในทุก ๆ สนาม ฉันเชื่อใจครูดิน ฉันรักครู ไม่ว่าครูจะให้วิ่งให้ซ้อมอะไร เราก็ทำไปเถอะ แต่เราต้องตีโจทย์ให้แตกก่อนทำการบ้านก็เท่านั้นเอง ^O^
ขอบคุณครูดินมาก ๆ นะคะ ขอบคุณที่ทั้งฝึก ทั้งสอน ทั้งให้กำลังใจ จนลูกสาวคนนี้ได้ถ้วยใบแรกของตัวเองมาได้ ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ครอบครัวสถาวร รวมถึง พี่ ๆ เพื่อน ๆ นักวิ่งทุกคนที่คอยแนะนำ และให้กำลังใจเสมอมา และสุดท้ายขอบคุณทุก ๆ คนที่คอยตาม คอยดูเจี๊ยบมาตั้งแต่ยังวิ่งไม่ได้ ตั้งแต่ตอนอ้วน ๆ จนมาถึงวันนี้ ขอบคุณทุก ๆ คำชม ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ ขอบคุณจากใจค่ะ ^O^
Norarat jeab
25-08-57
ค้นหาบล็อกนี้
วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557
สิ่งดี ๆ ที่สัมผัสได้ ^O^
สิ่งดี ๆ ที่สัมผัสได้ ^O^
การเป็นนักวิ่ง เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อน ว่าฉันจะเป็นนักวิ่งได้ ใครจะไปคาดคิด คนตัวใหญ่ ๆ คนที่เคยหนีการวิ่งมาตลอด แบบฉันเนี่ยนะจะวิ่งได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ฉันเป็นนักวิ่งไปแล้ว และมันเป็นไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ^O^
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ฉันต้องการลดน้ำหนัก และจากความประทับใจในงานวิ่งที่ฉันไปเดินเล่น มันทำให้ฉันสนใจ อาจเป็นเพราะสิ่งดี ๆ นำทางฉันไปก็ได้นะ ใครจะไปรู้ ^O^
จากการหัดวิ่งตามลำพัง จนนำไปสู่สังคมนักวิ่ง ฉันว่าเป็นสังคมที่ดีมากเลยหล่ะ ไม่ว่าใครจะอยู่ชมรมไหน พวกเราก็เหมือนเป็นพี่น้องนักวิ่งด้วยกัน คอยแนะนำ และคอยบอกฉันว่ามีงานวิ่งที่ไหนบ้าง ก็ตาม ๆ กันไป สนุกดีค่ะ ^O^
จนวันหนึ่งที่ฉันได้มาพบกับครูดิน Sathavorn Din ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไป ครูดินเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งครู เป็นผู้มีพระคุณ ที่ทำให้ฉันเป็นฉันในทุกวันนี้ ฉันรักครูดินมากจริง ๆ นะ ^O^
ฉันยังวิ่งไม่เก่งหรอก ถึงจะวิ่งเร็วขึ้น แต่ฉันก็ต้องเรียนรู้จากครู จากพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคน ฉันยังต้องปรับอีกเยอะ เพื่อให้ไปถึงความฝันที่ฉันฝันไว้ มันยากมากแต่ฉันก็มีความสุขกับทุก ๆ วันที่ฉันฝึก ทุก ๆ วันที่ฉันเรียนรู้ ทุก ๆ วันที่อยู่ในครอบครัวสถาวร เป็นสิ่งดี ๆ ที่ฉันสัมผัสได้ เป็นความสุขเล็ก ๆ ของฉันเลยหล่ะ ^O^
ทุกวันนี้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า วันข้างหน้าฉันจะเป็นยังไง เพราะมีหลาย ๆ สิ่งที่ฉันอยากทำ และฉันก็กลัว และยังไม่ได้เริ่ม แต่จะค่อย ๆ เรียนรู้ และรอวันที่ใจฉันพร้อม พร้อมที่จะทำสิ่งดี ๆ พร้อมที่จะทำเรื่องดี ๆ ให้เกิดขึ้นในชีวิตนี้ของฉันอีกหลาย ๆ ครั้ง ^O^
ขอบคุณครูดิน ขอบคุณพ่อแม่ของฉัน ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ ทุก ๆ คนที่ฉันรู้จัก ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ ขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่นำทางฉันมาจนถึงวันนี้ ขอบคุณจากใจดวงน้อย ๆ ค่ะ
ถ้าฉันไม่ท้อสักก่อน เชื่อสิสักวันฝันของฉันต้องเป็นจริง ยิ้มๆๆๆๆ ^O^
Norarat jeab
15-08-57
การเป็นนักวิ่ง เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อน ว่าฉันจะเป็นนักวิ่งได้ ใครจะไปคาดคิด คนตัวใหญ่ ๆ คนที่เคยหนีการวิ่งมาตลอด แบบฉันเนี่ยนะจะวิ่งได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว ฉันเป็นนักวิ่งไปแล้ว และมันเป็นไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ^O^
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ฉันต้องการลดน้ำหนัก และจากความประทับใจในงานวิ่งที่ฉันไปเดินเล่น มันทำให้ฉันสนใจ อาจเป็นเพราะสิ่งดี ๆ นำทางฉันไปก็ได้นะ ใครจะไปรู้ ^O^
จากการหัดวิ่งตามลำพัง จนนำไปสู่สังคมนักวิ่ง ฉันว่าเป็นสังคมที่ดีมากเลยหล่ะ ไม่ว่าใครจะอยู่ชมรมไหน พวกเราก็เหมือนเป็นพี่น้องนักวิ่งด้วยกัน คอยแนะนำ และคอยบอกฉันว่ามีงานวิ่งที่ไหนบ้าง ก็ตาม ๆ กันไป สนุกดีค่ะ ^O^
จนวันหนึ่งที่ฉันได้มาพบกับครูดิน Sathavorn Din ชีวิตฉันก็เปลี่ยนไป ครูดินเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งครู เป็นผู้มีพระคุณ ที่ทำให้ฉันเป็นฉันในทุกวันนี้ ฉันรักครูดินมากจริง ๆ นะ ^O^
ฉันยังวิ่งไม่เก่งหรอก ถึงจะวิ่งเร็วขึ้น แต่ฉันก็ต้องเรียนรู้จากครู จากพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคน ฉันยังต้องปรับอีกเยอะ เพื่อให้ไปถึงความฝันที่ฉันฝันไว้ มันยากมากแต่ฉันก็มีความสุขกับทุก ๆ วันที่ฉันฝึก ทุก ๆ วันที่ฉันเรียนรู้ ทุก ๆ วันที่อยู่ในครอบครัวสถาวร เป็นสิ่งดี ๆ ที่ฉันสัมผัสได้ เป็นความสุขเล็ก ๆ ของฉันเลยหล่ะ ^O^
ทุกวันนี้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า วันข้างหน้าฉันจะเป็นยังไง เพราะมีหลาย ๆ สิ่งที่ฉันอยากทำ และฉันก็กลัว และยังไม่ได้เริ่ม แต่จะค่อย ๆ เรียนรู้ และรอวันที่ใจฉันพร้อม พร้อมที่จะทำสิ่งดี ๆ พร้อมที่จะทำเรื่องดี ๆ ให้เกิดขึ้นในชีวิตนี้ของฉันอีกหลาย ๆ ครั้ง ^O^
ขอบคุณครูดิน ขอบคุณพ่อแม่ของฉัน ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ ทุก ๆ คนที่ฉันรู้จัก ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ ขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่นำทางฉันมาจนถึงวันนี้ ขอบคุณจากใจดวงน้อย ๆ ค่ะ
ถ้าฉันไม่ท้อสักก่อน เชื่อสิสักวันฝันของฉันต้องเป็นจริง ยิ้มๆๆๆๆ ^O^
Norarat jeab
15-08-57
ในวันที่อ่อนแอ ^O^
ในวันที่อ่อนแอ ^O^
"อ่อนแอบ้างเป็นบ้างวัน ดีกว่าอ่อนแอไปซะทุกวัน" ดีเจพี่อ้อย
ประโยคนี้คือ สิ่งที่พี่อ้อยเคยบอกกับฉัน มันโดนใจมากจริง ๆ นะ ^O^
ในวันที่อ่อนแอ อะไร ๆ ก็ดูช่างยากเย็นไปหมด มันท้อแท้ และเหมือนเราถูกดูดพลังไปหมดสิ้น ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว มันก็เป็นแค่ความคิดของเราที่ทำให้เราอ่อนแอ
ความคิดที่ว่านี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรากังวล สิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจ สิ่งที่ทำให้เราหมดหวัง สิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ใจ ซึ่งทั้งหมดก็เกิดจากเราคิดไปเอง จริงปล่ะ? ^O^
อะไรนะที่ทำให้เราคิดไปเอง อะไรนะที่ทำให้จิตใจเราอ่อนแอขนาดนี้? นั่นสิมันเพราะอะไรกันนะ ฉันหล่ะไม่เข้าใจ ^O^
ทุกสิ่งที่มากระทบจิตใจเราไง ใจเราไม่ใช่หินนะ ที่จะได้ทนแดด ทนฝน ใจเราก็มีการหวั่นไหว ใจเราก็มีความรู้สึก มีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง ฯลฯ เพราะใจเรายึดติดกับสิ่งพวกนี้มากเกินไปใช่ไหม? มันเลยทำให้เราอ่อนแอ และเหนื่อยกับอะไรก็ไม่รู้ แต่เราก็มักชอบปฏิเสธ ว่าเราไม่ได้รู้สึกอะไร เราเข้มแข็งดีอยู่ ^O^
จะดีกว่าไหมถ้าเราเรียนรู้ไปกับใจเรา วันนี้เราอ่อนแอนะ เราไม่ต้องฝืนความรู้สึกให้ต้องเข้มแข็งไปทุกวันหรอก อ่อนแอบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในวันที่อ่อนแอ เราต้องนิ่งให้ได้ หยุดความคิด หยุดกังวล หยุดให้ได้ หยุดนิ่ง ๆ ไม่ต้องรีบเข้มแข็งก็ได้ ขอให้นิ่งให้ได้ มันก็แค่นั้นเอง แล้ววันที่อ่อนแอ ก็จะผ่านไปเองหล่ะ ยิ้มๆๆๆๆ ^O^
สู้ ๆ กันนะทุกคน จำไว้ว่าพระอาทิตย์ตกได้ พระอาทิตย์ก็ขึ้นได้เหมือนกัน
Norarat jeab
15-08-57
"อ่อนแอบ้างเป็นบ้างวัน ดีกว่าอ่อนแอไปซะทุกวัน" ดีเจพี่อ้อย
ประโยคนี้คือ สิ่งที่พี่อ้อยเคยบอกกับฉัน มันโดนใจมากจริง ๆ นะ ^O^
ในวันที่อ่อนแอ อะไร ๆ ก็ดูช่างยากเย็นไปหมด มันท้อแท้ และเหมือนเราถูกดูดพลังไปหมดสิ้น ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว มันก็เป็นแค่ความคิดของเราที่ทำให้เราอ่อนแอ
ความคิดที่ว่านี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรากังวล สิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจ สิ่งที่ทำให้เราหมดหวัง สิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ใจ ซึ่งทั้งหมดก็เกิดจากเราคิดไปเอง จริงปล่ะ? ^O^
อะไรนะที่ทำให้เราคิดไปเอง อะไรนะที่ทำให้จิตใจเราอ่อนแอขนาดนี้? นั่นสิมันเพราะอะไรกันนะ ฉันหล่ะไม่เข้าใจ ^O^
ทุกสิ่งที่มากระทบจิตใจเราไง ใจเราไม่ใช่หินนะ ที่จะได้ทนแดด ทนฝน ใจเราก็มีการหวั่นไหว ใจเราก็มีความรู้สึก มีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง ฯลฯ เพราะใจเรายึดติดกับสิ่งพวกนี้มากเกินไปใช่ไหม? มันเลยทำให้เราอ่อนแอ และเหนื่อยกับอะไรก็ไม่รู้ แต่เราก็มักชอบปฏิเสธ ว่าเราไม่ได้รู้สึกอะไร เราเข้มแข็งดีอยู่ ^O^
จะดีกว่าไหมถ้าเราเรียนรู้ไปกับใจเรา วันนี้เราอ่อนแอนะ เราไม่ต้องฝืนความรู้สึกให้ต้องเข้มแข็งไปทุกวันหรอก อ่อนแอบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ในวันที่อ่อนแอ เราต้องนิ่งให้ได้ หยุดความคิด หยุดกังวล หยุดให้ได้ หยุดนิ่ง ๆ ไม่ต้องรีบเข้มแข็งก็ได้ ขอให้นิ่งให้ได้ มันก็แค่นั้นเอง แล้ววันที่อ่อนแอ ก็จะผ่านไปเองหล่ะ ยิ้มๆๆๆๆ ^O^
สู้ ๆ กันนะทุกคน จำไว้ว่าพระอาทิตย์ตกได้ พระอาทิตย์ก็ขึ้นได้เหมือนกัน
Norarat jeab
15-08-57
วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557
งานวิ่ง 12 สิงหาคม ฮาล์ฟมาราธอน 2014
งานวิ่ง 12 สิงหาคม ฮาล์ฟมาราธอน 2014
งานวิ่งในเมืองอีกหนึ่งงานที่ ถ้าเราไม่ได้วิ่ง เราจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว เส้นทางจากสยามถึง ศูนย์สิริกิต จริงๆ ก็ไม่ได้ไกลกันสักเท่าไหร่เลย แต่ทำไมเวลาเรานั้งรถรู้สึกว่ามันไกลจังเลย ^O^
เส้นทางการวิ่งของงานนี้วิ่งเป็น สี่เหลียม วิ่งจากศูนย์สิริกิต เลี้ยวซ้ายตรงแยกอโศก ตรงไปตามทางรถไฟฟ้า ผ่านสยามดิสฯ เลี้ยวซ้ายผ่านม.จุฬาฯ เลี้ยวซ้ายตรงแยกจามจุรีสแคว วิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกอังรีดูนัง ลงสะพานเสร็จ ก็วิ่งขึ้นสะพานไทยเบลเยียม (โหดมากนะ 2 สะพานติด ^O^) ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านคลองเคย ถึงสีแยกเลี้ยวซ้าย ตรงไปถึงศูนย์สิริกิตกับเข้าเส้นชัย ระยะทางรวมทั้งหมด 10.52 กม. พอดีเป๊ะ ^O^
งานนี้ฉันไม่คิดอะไรมาก เพราะขาฉันยังล้าจากงานวิ่งบางกอกโพส เมื่อ อ. 10-08-57 ที่ผ่านมา ขายังตึง ๆ อยู่เลย แต่ฉันก็วิ่งวอร์ม ยืดเหยียด และสไตร์ค เสร็จแล้วก็ไปเช็คอิน เข้าไปในคอกรอปล่อยตัว งานนี้ 10.50 โล กับ 6 โล ปล่อยตัวพร้อมกัน คนเยอะมากกก ^O^
ฉันกับเพื่อน แทรกตัวไปอยู่กลาง ๆ และมีเรื่องที่ฉันขำมาก ฉันคิดถึงครูดินเลยตอนนั้น ครูเคยบอกว่าถ้าเราวอร์มเสร็จแล้ว ให้ดูประธานด้วย งานนี้กว่าจะปล่อยตัวเกือบ 10 นาที เพราะต้องร้องเพลงสดุดี 2 เพลง ประธานถึงจะเปิดงานเสร็จ เหงื่อฉันก็เกือบแห้งแล้ว 555 ^O^
ฉันวิ่งออกตัวด้วยความเร็วเพซ 5 ต้น ๆ วิ่งฉิวมาก ฉันไม่รอเพื่อน ที่ค่อย ๆ วิ่ง แต่ใจฉันมันไปก่อนแล้ว ฉันค่อย ๆ แซงไปเรื่อย ๆ กม.แรกฉันทำเวลาได้ดีมาก 5.10 นาที เร็วมาก และฉันคิดว่าฉันคุมไหว แต่พอเริ่มเข้ากม. 5 ฉันก็เหนื่อยมาก เข้าจุดให้น้ำจุดที่ 2 และถือแก้ววิ่ง กินน้ำแก้วเดียวจริง ๆ นะ ^O^
ในกม.ที่ 5 นี้มีเรื่องที่ฉันประทับใจ ฉันวิ่งทันเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 10 ขวบ น้องเขามีครูมาวิ่งด้วย 2 คน คอยเชียร์ และคอยบอกว่าต้องวิ่งเร็วแค่ไหน ใจน้องสู้สุดๆ ขนาดฉันเป็นผู้ใหญ่ฉันยังเหนื่อยมาก ฉันก็วิ่งเกาะน้องเขามาจนขึ้นสะพานข้ามแยกอังรีดูนัง น้องเขาก็ทิ้งห่างนำฉันไป มันโหดมากนะ สะพานสูงมาก ฉันเหนื่อยมาก วิ่งไปถึงบนสะพานเพซก็ตกมาอยู่เพช 6.04 นาที ตอนนั้นคือกม.ที่8 พอดี เหนื่อยสุด ๆ จนแทบอยากเดิน แต่ก็ไม่เดินนะ ^O^
ลงสะพานเสร็จ ก็ต้องวิ่งขึ้นสะพานไทยเบลเยียม แต่สะพานที่โหดน้อยกว่า ฉันก็วิ่งไปเรื่อย ๆ ดึงความเร็วค่อย ๆ คืนมา ฉันไม่แน่ใจว่าระยะทางจะพอดี 10.50 หรือเปล่า ฉันเลยไม่กล้าเร่งมาก แต่ค่อย ๆ ไต่ความเร็วขึ้นมาเรื่อย ๆ พอถึงแยกคลองเตย ฉันก็เร่งขึ้นไปจนเกือบสุด วิ่งฝืนไปเรื่อย ๆ ฝืนความเหนื่อยของตัวเอง และปล่อยให้ไหลไปให้สุด เหลือระยะทางอีก 1 โลนิด ๆ เอง ฉันบอกตัวเองแบบนี้ และก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น วิ่งไปจนเข้าเส้นชัยในที่สุด ทำเวลาไป ทั้งหมด 59.17.1 นาที ได้เวลาเพชเฉลียเท่ากับงานวิ่งบางกอกโพสเลย 5.38 นาที ฉันละงงตัวเองจัง ทำได้ไงเนีย
งานนี้ในงานมีแจกต้นมะลิกลับไปมอบให้แม่ด้วย แต่ฉันไปรับไม่ทัน ในงานแจกให้พันคนแรก น่าเสียดายจัง เพราะฉันมัวแต่วิ่งจ๊อกเบา ๆ แทน ไม่เป็นไร เอาเหรียญมาให้แม่ก็ดีใจที่สุดแล้ว ^O^
Norarat Jeab
13-08-57
งานวิ่งในเมืองอีกหนึ่งงานที่ ถ้าเราไม่ได้วิ่ง เราจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว เส้นทางจากสยามถึง ศูนย์สิริกิต จริงๆ ก็ไม่ได้ไกลกันสักเท่าไหร่เลย แต่ทำไมเวลาเรานั้งรถรู้สึกว่ามันไกลจังเลย ^O^
เส้นทางการวิ่งของงานนี้วิ่งเป็น สี่เหลียม วิ่งจากศูนย์สิริกิต เลี้ยวซ้ายตรงแยกอโศก ตรงไปตามทางรถไฟฟ้า ผ่านสยามดิสฯ เลี้ยวซ้ายผ่านม.จุฬาฯ เลี้ยวซ้ายตรงแยกจามจุรีสแคว วิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกอังรีดูนัง ลงสะพานเสร็จ ก็วิ่งขึ้นสะพานไทยเบลเยียม (โหดมากนะ 2 สะพานติด ^O^) ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านคลองเคย ถึงสีแยกเลี้ยวซ้าย ตรงไปถึงศูนย์สิริกิตกับเข้าเส้นชัย ระยะทางรวมทั้งหมด 10.52 กม. พอดีเป๊ะ ^O^
งานนี้ฉันไม่คิดอะไรมาก เพราะขาฉันยังล้าจากงานวิ่งบางกอกโพส เมื่อ อ. 10-08-57 ที่ผ่านมา ขายังตึง ๆ อยู่เลย แต่ฉันก็วิ่งวอร์ม ยืดเหยียด และสไตร์ค เสร็จแล้วก็ไปเช็คอิน เข้าไปในคอกรอปล่อยตัว งานนี้ 10.50 โล กับ 6 โล ปล่อยตัวพร้อมกัน คนเยอะมากกก ^O^
ฉันกับเพื่อน แทรกตัวไปอยู่กลาง ๆ และมีเรื่องที่ฉันขำมาก ฉันคิดถึงครูดินเลยตอนนั้น ครูเคยบอกว่าถ้าเราวอร์มเสร็จแล้ว ให้ดูประธานด้วย งานนี้กว่าจะปล่อยตัวเกือบ 10 นาที เพราะต้องร้องเพลงสดุดี 2 เพลง ประธานถึงจะเปิดงานเสร็จ เหงื่อฉันก็เกือบแห้งแล้ว 555 ^O^
ฉันวิ่งออกตัวด้วยความเร็วเพซ 5 ต้น ๆ วิ่งฉิวมาก ฉันไม่รอเพื่อน ที่ค่อย ๆ วิ่ง แต่ใจฉันมันไปก่อนแล้ว ฉันค่อย ๆ แซงไปเรื่อย ๆ กม.แรกฉันทำเวลาได้ดีมาก 5.10 นาที เร็วมาก และฉันคิดว่าฉันคุมไหว แต่พอเริ่มเข้ากม. 5 ฉันก็เหนื่อยมาก เข้าจุดให้น้ำจุดที่ 2 และถือแก้ววิ่ง กินน้ำแก้วเดียวจริง ๆ นะ ^O^
ในกม.ที่ 5 นี้มีเรื่องที่ฉันประทับใจ ฉันวิ่งทันเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 10 ขวบ น้องเขามีครูมาวิ่งด้วย 2 คน คอยเชียร์ และคอยบอกว่าต้องวิ่งเร็วแค่ไหน ใจน้องสู้สุดๆ ขนาดฉันเป็นผู้ใหญ่ฉันยังเหนื่อยมาก ฉันก็วิ่งเกาะน้องเขามาจนขึ้นสะพานข้ามแยกอังรีดูนัง น้องเขาก็ทิ้งห่างนำฉันไป มันโหดมากนะ สะพานสูงมาก ฉันเหนื่อยมาก วิ่งไปถึงบนสะพานเพซก็ตกมาอยู่เพช 6.04 นาที ตอนนั้นคือกม.ที่8 พอดี เหนื่อยสุด ๆ จนแทบอยากเดิน แต่ก็ไม่เดินนะ ^O^
ลงสะพานเสร็จ ก็ต้องวิ่งขึ้นสะพานไทยเบลเยียม แต่สะพานที่โหดน้อยกว่า ฉันก็วิ่งไปเรื่อย ๆ ดึงความเร็วค่อย ๆ คืนมา ฉันไม่แน่ใจว่าระยะทางจะพอดี 10.50 หรือเปล่า ฉันเลยไม่กล้าเร่งมาก แต่ค่อย ๆ ไต่ความเร็วขึ้นมาเรื่อย ๆ พอถึงแยกคลองเตย ฉันก็เร่งขึ้นไปจนเกือบสุด วิ่งฝืนไปเรื่อย ๆ ฝืนความเหนื่อยของตัวเอง และปล่อยให้ไหลไปให้สุด เหลือระยะทางอีก 1 โลนิด ๆ เอง ฉันบอกตัวเองแบบนี้ และก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น วิ่งไปจนเข้าเส้นชัยในที่สุด ทำเวลาไป ทั้งหมด 59.17.1 นาที ได้เวลาเพชเฉลียเท่ากับงานวิ่งบางกอกโพสเลย 5.38 นาที ฉันละงงตัวเองจัง ทำได้ไงเนีย
งานนี้ในงานมีแจกต้นมะลิกลับไปมอบให้แม่ด้วย แต่ฉันไปรับไม่ทัน ในงานแจกให้พันคนแรก น่าเสียดายจัง เพราะฉันมัวแต่วิ่งจ๊อกเบา ๆ แทน ไม่เป็นไร เอาเหรียญมาให้แม่ก็ดีใจที่สุดแล้ว ^O^
Norarat Jeab
13-08-57
วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วิ่ง 10.98 โล กับ Bangkok Post 2014 ที่ CTW. 10-08-57 ^O^
วิ่ง 10.98 โล กับ Bangkok Post 2014 ที่ CTW. 10-08-57 ^O^
คืนก่อนหน้าไปวิ่งงานนี้ ฉันก็บอกกับตัวเองว่า "ฉันจะวิ่งให้เต็มที่ที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะทำให้ดีที่สุด และวิ่งให้สนุกที่สุด วิ่งเพราะอยากวิ่ง และฉันจะมีความสุขที่ฉันวิ่งได้ ^O^"
นี่คือสิ่งที่ฉันคิดไว้ ฉันไม่รู้เลยว่า ฉันจะวิ่งได้ดีขนาดนี้ มันทำให้ฉันดีใจมาก ดีใจที่สุด ฉันไม่ได้เว่อร์นะ แต่ฉันดีใจจริง ๆ ที่สร้างสถิติ 10 กม. ใหม่ (New PB.) ให้กับฉันเองได้สำเร็จ ด้วยเวลาทั้งหมด 55.58.5 นาที มันดีใจมากกกก (นี่ถ้าฉันวิ่งเร็วขึ้นอีก 3 วินาที ฉันจะได้เวลารวม 55.55.5 คงจะฮา น่าดูทีเดียว 555 ^O^) ฉันเต็มที่แล้ว และทำได้ดีขนาดนี้มัน ฟินสุด ๆ เลย แถมอันดับฉัน ในรุ่น 30-39 ฉันได้ อันดับที่ 13 ใกล้ติด 1 ใน 10 แล้วอ่ะ อีกนิดเดียวเอง ยิ้มๆๆๆๆ ^O^
เส้นทางการวิ่งของระยะ 10.98 โล นี้ เราจะวิ่งจาก CTW. ไปอ้อมสวนลุม วิ่งเข้า ถ.วิทยุ ตรงไป ตัดเข้า ถ.เพชรบุรี วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ แล้ว ตัดเข้า ถ. บรรทัดทอง จนถึง โลตัส แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านสนามศุภ ฯ ผ่านพารากอน แล้วกลับเข้าจุด start/finish ที่ CTW. สีแยกเยอะมาก และถนน.มีฝาท่อเยอะเลย หลายคนเจ็บตัวขาพลิก ถ้าไม่ระวังอันตรายมาก โชคดีที่ฉันไม่เจ็บตัว ไม่ตกท่อ และไม่ติดไฟแดงตรงสีแยก ฉันวิ่งไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ ของฉันไป แต่มันเหนื่อยมากจริงๆ นะ ^O^
ฉันเริ่มต้นวิ่ง กม.แรกด้วยความเร็ว 5.29 นาที ฉันไม่เหนื่อยเลยอ่ะ เข้ากม.ที่ 2 เชือกรองเท้าหลุดข้างขวา ใจฉันคิดจะวิ่งไปเรื่อย ๆ ทั้งแบบนี้ดีไหม? ฉันฝืนวิ่งไปผ่านจุดให้น้ำแรก ฉันไม่กิน และไม่หยุดผูกเชือกรองเท้าด้วย พอเข้ากม. 3 เพื่อความปลอดภัยของฉันเอง ฉันหยุดผูกเชือกก็ได้ เสียเวลานิดหน่อยคงไม่เป็นไร ดีกว่าหกล้ม หรือรองเท้าหลุดจะเสียเวลากว่านี้อ่ะ ^O^ ระหว่างที่ฉันผูกเชือกรองเท้า พี่สาวสุดน่ารักก็แซงฉันไป ฉันคิดในใจ ไม่เป็นไรฉันต่อให้ก่อน
ฉันก็วิ่งของฉันไปเรื่อย ๆ ด้วยความเร็ว เพซ 5-6 นาที ฉันพยายามคุมความเร็ว รักษาจังหวะ และวิ่งไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ บอกแล้วไงว่าฉันวิ่งเต็มที่ได้เท่านี้ เร็วกว่านี้ก็ไม่ได้ ช้ากว่านี้ก็ไม่ได้ วิ่งด้วยจังหวะนี้ รักษาจังหวะไว้ และพยายามเกร็งให้น้อยที่สุด พอเข้ากม. ที่ 5 GPS ในนาฬิกาเริ่มรวน มันจับความเร็วแปลก ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ฉันก็วิ่งของฉันไป และไม่สนใจนาฬิกา จนเข้ากม. 6 นาฬิกาก็กลับมาเป็นปกติ ฉันมาเจอพี่สาวสุดน่ารักตอนเข้ากม.ที่ 7 พร้อมกับโดนเพื่อนแซงฉันกับพี่สาวสุดน่ารักไป ฉันคิดในใจ สุดยอดเลยเพื่อนวิ่งเร็วมาก เก่งจังเลย นับถือ ๆ ^O^)
พี่สาวสุดน่ารักบอกให้ฉันวิ่งไปก่อนก็ได้ไม่เป็นไร อันที่จริงฉันจะวิ่งแซงก็ได้นะ แต่ฉันเห็นพี่สาวเหนื่อยมาก ก็เลยวิ่งเป็นเพื่อนพี่สาวฉันก่อน เกาะ ๆ กันไปก่อน ฉันบอกพี่สาวว่าไม่เป็นไร เราไปด้วยกันก็ได้ เราวิ่งไปด้วยกันจนถึงจุดให้น้ำ ฉันบอกพี่สาวว่าอีกนิดเดียวเองไม่ต้องกินก็ได้เนอะ แต่พี่สาวไม่ไหว บอกให้ฉันวิ่งไปก่อนก็ได้ พี่สาวขอกินน้ำก่อน เราเลยแยกจากกันที่ตรงนั้น แล้วฉันก็วิ่งต่อไป เพิ่มความเร็วขึ้นมาเรื่อยๆ แวะกินเกลือแร่ เหลือระยะอีกราว 1 กม. กับอีก 500 เมตร ฉันเร่งสปีดข้ามสีแยกตรงมาบุญครอง แวะจุดให้น้ำสุดท้ายตรงหน้าสยามเซ็นเตอร์ หยิบขวดน้ำมา 1 ขวด วิ่งไปกินไป ราดหน้า ราดคอ ให้สดชื่น แต่ความเร็วไม่มีลดนะคะ ^O^ ฉันมีแรงเท่าไหร่ ฉันใส่หมด ฉันใส่พลังไปเต็ม ๆ วิ่งไม่สนใจอะไรแล้ว มันสุด ๆๆ แล้วเหนื่อยจนแทบหายใจไม่ทัน และเข้าเส้นชัยในที่สุด ฉันกระโดดเหยียบพรมเช็คพอย แบบสะใจมาก ฉันทำได้แล้ว หัวใจฉันเต้นแรง ฉันหายใจถี่มาก ฉันก็เลยจ๊อกเบา ๆ ต่ออีก 2-3 นาที ก็ดีขึ้นมาก ฉันยิ้มให้กับตัวเอง และมองดูเวลาในนาฬิกาที่ฉันกดหยุดไว้ เวลารวมทั้งหมดที่ฉันใช้ไปคือ 1.01.49 ชม. มันสุดยอดมากกก ฉันทำได้แล้ว ฉันสร้างสถิติใหม่ให้ตัวเองได้แล้ว มีความสุขที่สุดของที่สุด ^O^
หลายคนอาจจะวิ่งเพื่อให้ได้ถ้วย ฉันก็อยากได้ แต่มันยังไม่ถึงเวลาของฉัน ตอนนี้ฉันขอแค่ได้สถิติใหม่ มันยากมากนะ การจะวิ่งให้เร็วขึ้นจากเดิม มันยากมาก แต่ฉันทำได้ ฉันทำได้จริง ๆ ด้วย ฉันสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเอง และยังให้ New PB เป็นของขวัญวันเกิดให้ครูดิน ฉันมีความสุขจังเลย ^O^
ขอบคุณครูดินมาก ๆ นะคะ ขอบคุณจากใจดวงน้อย ๆ ของลูกสาวคนนี้ รักครูดินนะคะ ยิ้ม ๆๆๆๆๆ ^O^
Norarat Jeab
11-08-57
คืนก่อนหน้าไปวิ่งงานนี้ ฉันก็บอกกับตัวเองว่า "ฉันจะวิ่งให้เต็มที่ที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะทำให้ดีที่สุด และวิ่งให้สนุกที่สุด วิ่งเพราะอยากวิ่ง และฉันจะมีความสุขที่ฉันวิ่งได้ ^O^"
นี่คือสิ่งที่ฉันคิดไว้ ฉันไม่รู้เลยว่า ฉันจะวิ่งได้ดีขนาดนี้ มันทำให้ฉันดีใจมาก ดีใจที่สุด ฉันไม่ได้เว่อร์นะ แต่ฉันดีใจจริง ๆ ที่สร้างสถิติ 10 กม. ใหม่ (New PB.) ให้กับฉันเองได้สำเร็จ ด้วยเวลาทั้งหมด 55.58.5 นาที มันดีใจมากกกก (นี่ถ้าฉันวิ่งเร็วขึ้นอีก 3 วินาที ฉันจะได้เวลารวม 55.55.5 คงจะฮา น่าดูทีเดียว 555 ^O^) ฉันเต็มที่แล้ว และทำได้ดีขนาดนี้มัน ฟินสุด ๆ เลย แถมอันดับฉัน ในรุ่น 30-39 ฉันได้ อันดับที่ 13 ใกล้ติด 1 ใน 10 แล้วอ่ะ อีกนิดเดียวเอง ยิ้มๆๆๆๆ ^O^
เส้นทางการวิ่งของระยะ 10.98 โล นี้ เราจะวิ่งจาก CTW. ไปอ้อมสวนลุม วิ่งเข้า ถ.วิทยุ ตรงไป ตัดเข้า ถ.เพชรบุรี วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ แล้ว ตัดเข้า ถ. บรรทัดทอง จนถึง โลตัส แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านสนามศุภ ฯ ผ่านพารากอน แล้วกลับเข้าจุด start/finish ที่ CTW. สีแยกเยอะมาก และถนน.มีฝาท่อเยอะเลย หลายคนเจ็บตัวขาพลิก ถ้าไม่ระวังอันตรายมาก โชคดีที่ฉันไม่เจ็บตัว ไม่ตกท่อ และไม่ติดไฟแดงตรงสีแยก ฉันวิ่งไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ ของฉันไป แต่มันเหนื่อยมากจริงๆ นะ ^O^
ฉันเริ่มต้นวิ่ง กม.แรกด้วยความเร็ว 5.29 นาที ฉันไม่เหนื่อยเลยอ่ะ เข้ากม.ที่ 2 เชือกรองเท้าหลุดข้างขวา ใจฉันคิดจะวิ่งไปเรื่อย ๆ ทั้งแบบนี้ดีไหม? ฉันฝืนวิ่งไปผ่านจุดให้น้ำแรก ฉันไม่กิน และไม่หยุดผูกเชือกรองเท้าด้วย พอเข้ากม. 3 เพื่อความปลอดภัยของฉันเอง ฉันหยุดผูกเชือกก็ได้ เสียเวลานิดหน่อยคงไม่เป็นไร ดีกว่าหกล้ม หรือรองเท้าหลุดจะเสียเวลากว่านี้อ่ะ ^O^ ระหว่างที่ฉันผูกเชือกรองเท้า พี่สาวสุดน่ารักก็แซงฉันไป ฉันคิดในใจ ไม่เป็นไรฉันต่อให้ก่อน
ฉันก็วิ่งของฉันไปเรื่อย ๆ ด้วยความเร็ว เพซ 5-6 นาที ฉันพยายามคุมความเร็ว รักษาจังหวะ และวิ่งไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ บอกแล้วไงว่าฉันวิ่งเต็มที่ได้เท่านี้ เร็วกว่านี้ก็ไม่ได้ ช้ากว่านี้ก็ไม่ได้ วิ่งด้วยจังหวะนี้ รักษาจังหวะไว้ และพยายามเกร็งให้น้อยที่สุด พอเข้ากม. ที่ 5 GPS ในนาฬิกาเริ่มรวน มันจับความเร็วแปลก ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ฉันก็วิ่งของฉันไป และไม่สนใจนาฬิกา จนเข้ากม. 6 นาฬิกาก็กลับมาเป็นปกติ ฉันมาเจอพี่สาวสุดน่ารักตอนเข้ากม.ที่ 7 พร้อมกับโดนเพื่อนแซงฉันกับพี่สาวสุดน่ารักไป ฉันคิดในใจ สุดยอดเลยเพื่อนวิ่งเร็วมาก เก่งจังเลย นับถือ ๆ ^O^)
พี่สาวสุดน่ารักบอกให้ฉันวิ่งไปก่อนก็ได้ไม่เป็นไร อันที่จริงฉันจะวิ่งแซงก็ได้นะ แต่ฉันเห็นพี่สาวเหนื่อยมาก ก็เลยวิ่งเป็นเพื่อนพี่สาวฉันก่อน เกาะ ๆ กันไปก่อน ฉันบอกพี่สาวว่าไม่เป็นไร เราไปด้วยกันก็ได้ เราวิ่งไปด้วยกันจนถึงจุดให้น้ำ ฉันบอกพี่สาวว่าอีกนิดเดียวเองไม่ต้องกินก็ได้เนอะ แต่พี่สาวไม่ไหว บอกให้ฉันวิ่งไปก่อนก็ได้ พี่สาวขอกินน้ำก่อน เราเลยแยกจากกันที่ตรงนั้น แล้วฉันก็วิ่งต่อไป เพิ่มความเร็วขึ้นมาเรื่อยๆ แวะกินเกลือแร่ เหลือระยะอีกราว 1 กม. กับอีก 500 เมตร ฉันเร่งสปีดข้ามสีแยกตรงมาบุญครอง แวะจุดให้น้ำสุดท้ายตรงหน้าสยามเซ็นเตอร์ หยิบขวดน้ำมา 1 ขวด วิ่งไปกินไป ราดหน้า ราดคอ ให้สดชื่น แต่ความเร็วไม่มีลดนะคะ ^O^ ฉันมีแรงเท่าไหร่ ฉันใส่หมด ฉันใส่พลังไปเต็ม ๆ วิ่งไม่สนใจอะไรแล้ว มันสุด ๆๆ แล้วเหนื่อยจนแทบหายใจไม่ทัน และเข้าเส้นชัยในที่สุด ฉันกระโดดเหยียบพรมเช็คพอย แบบสะใจมาก ฉันทำได้แล้ว หัวใจฉันเต้นแรง ฉันหายใจถี่มาก ฉันก็เลยจ๊อกเบา ๆ ต่ออีก 2-3 นาที ก็ดีขึ้นมาก ฉันยิ้มให้กับตัวเอง และมองดูเวลาในนาฬิกาที่ฉันกดหยุดไว้ เวลารวมทั้งหมดที่ฉันใช้ไปคือ 1.01.49 ชม. มันสุดยอดมากกก ฉันทำได้แล้ว ฉันสร้างสถิติใหม่ให้ตัวเองได้แล้ว มีความสุขที่สุดของที่สุด ^O^
หลายคนอาจจะวิ่งเพื่อให้ได้ถ้วย ฉันก็อยากได้ แต่มันยังไม่ถึงเวลาของฉัน ตอนนี้ฉันขอแค่ได้สถิติใหม่ มันยากมากนะ การจะวิ่งให้เร็วขึ้นจากเดิม มันยากมาก แต่ฉันทำได้ ฉันทำได้จริง ๆ ด้วย ฉันสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเอง และยังให้ New PB เป็นของขวัญวันเกิดให้ครูดิน ฉันมีความสุขจังเลย ^O^
ขอบคุณครูดินมาก ๆ นะคะ ขอบคุณจากใจดวงน้อย ๆ ของลูกสาวคนนี้ รักครูดินนะคะ ยิ้ม ๆๆๆๆๆ ^O^
Norarat Jeab
11-08-57
วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วิธีสร้างเพจ facebook บนมือถือ
วิธีสร้างเพจ facebook บนมือถือ
1.เปิด App. เฟสบุ๊คขึ้นมา
1.เปิด App. เฟสบุ๊คขึ้นมา
2. กดปุด ขีด 3 ขีด
3. จะปรากฏ แถบเมนูเหมือนในรูปนี้
4. เลื่อนลงมาตรงแถบ เมนูหน้า
5. เลือก ดูทั้งหมด
6. จะปรากฏ แถบเมนูเหมือนในรูป
7. กดปุ่มสร้างหน้า
8.ทีนี้ก็จัดการใส่ข้อมูลและสร้างหน้าเพจได้เลยค่ะ ^O^
ขออีกครั้งนะคะครู ^O^
ขออีกครั้งนะคะครู ^O^
มันมีเหตุการณ์ที่เจี๊ยบยิ้มทุกทีที่คิดถึงเรื่องนี้ ตอนนั้นพึ่งเริ่มฝึกวิ่งกับครูดิน Sathavorn Din ใหม่ ๆ เจี๊ยบอาการหนักกว่าใครเลย ตัวแข็ง วิ่งกระแทรกเสียงดัง แกว่งแขนก็เลื่อยไม้ แถมเวลาวิ่งตัวก็โยก ๆ หลังก็โก่ง ๆ ข้อมือก็บิด เกร็งหัวไหล่มาก ๆ ท่าวิ่งตลกสุด ๆ ^O^
เจี๊ยบวิ่งยังไงก็แก้ไม่ได้สักที ครูดินพยายามทุกวิถีทาง พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ก็คอยดู และบอกว่าต้องปรับตรงไหน แต่เจี๊ยบก็แก้ไม่ได้ เราก็วิเคราะห์กัน หรือเป็นเพราะรองเท้าเจี๊ยบ โทษรองเท้าซะงัน 555 ^O^
เพราะคนอื่นก็ฝึกกระโดดเหมือนกัน ไม่เห็นเสียงดังแบบเจี๊ยบเลย พี่สาวคนหนึ่งเลยบอกว่าหรือเป็นเพราะรองเท้า เจี๊ยบเลยให้พี่สาวลองรองเท้าและกระโดดดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่รองเท้าแล้วหล่ะ เพราะพี่สาวเจี๊ยบกระโดดได้นุ่มมาก ไม่กระแทรกแบบเจี๊ยบเลย สุดยอดมากอ่ะ ตอนนั้นเจี๊ยบทึ่งมาก 555 (เวอร์อีกแล้ว ^O^)
ทีนี้ก็รู้แล้วสาเหตุที่วิ่งกระแทรกไม่ใช่ที่รองเท้าแล้ว แต่มันเกิดจากตัวเจี๊ยบเอง เจี๊ยบกะการถ่ายน้ำหนักไม่ถูก เจี๊ยบจับจังหวะไม่ได้ และเจี๊ยบก็จะถูกให้กระโดดคนเดียว มันเหนื่อยสุด ๆ เลย แต่ก็กระโดดจนเจี๊ยบเริ่มรู้แล้วว่า เบา ๆ คืออะไร กระโดดจนเจี๊ยบเริ่มปรับการหายใจได้ กระโดดจนจับจังหวะได้ คิดดูว่าเจี๊ยบจะกระโดดเยอะแค่ไหน กระโดดจนผอมเลยหล่ะ 555 ^O^
เหตุการณ์นี้ทำให้เจี๊ยบนึกทีไรก็ยิ้มออก เพราะถ้าเจี๊ยบทำไม่ได้ เจี๊ยบจะขอครูดินทำอีกรอบ และครูก็จะบอกว่า ทำไมไม่ทำให้ดีตั้งแต่เริ่มหล่ะ พอทำอีกรอบก็ดีขึ้น ครูดินก็บอกว่าทำดีก็ทำได้นิ ทำไมไม่ทำ ครูคงปวดหัวกับเจี๊ยบมากจริงๆ ยิ้มๆๆๆ 555 ^O^
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้แค่จะบอกว่า การจะปรับเปลี่ยนตัวเอง มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ เจี๊ยบฝืนตัวเองสุด ๆ ทำใหม่ไม่รู้กี่รอบ และเวลาฝึกในสิ่งที่คนอื่นมองงง ๆ ว่า เจี๊ยบทำอะไร มันตลกนะ เจี๊ยบยังขำตัวเองเลย แต่ก็ทำจากที่เคยโทษรองเท้า ตอนนี้ไม่แล้ว โทษตัวเองนี่หล่ะ เราทำไม่ได้เองอ่ะ ก็ฝึกไป ๆ ทำมันซ้ำ ๆ บ่อย ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ แนะนำอะไร เจี๊ยบก็ทำหมด จนตอนนี้ มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเจี๊ยบ Transformer มากอ่ะ มันรู้สึกดีใจมากจริง ๆ จากรถคุณปู่ เปลี่ยนมาเป็นรถสปอต 555^O^
คนที่เริ่มต้นวิ่ง เราต้องรู้ก่อนเราวิ่งเผื่ออะไร เราจะสนุกขึ้นเยอะเลย ถ้าเรารู้มาเราวิ่งเพื่ออะไร และเห็นตัวเองค่อย ๆ พัฒนาขึ้น ไม่ใช่แค่ร่างกายที่แข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่จิตใจเราก็เข้มแข็งขึ้นด้วย เจี๊ยบเล่าจากใจ จริง ๆ นะ ^O^
Norarat jeab
7-08-57
มันมีเหตุการณ์ที่เจี๊ยบยิ้มทุกทีที่คิดถึงเรื่องนี้ ตอนนั้นพึ่งเริ่มฝึกวิ่งกับครูดิน Sathavorn Din ใหม่ ๆ เจี๊ยบอาการหนักกว่าใครเลย ตัวแข็ง วิ่งกระแทรกเสียงดัง แกว่งแขนก็เลื่อยไม้ แถมเวลาวิ่งตัวก็โยก ๆ หลังก็โก่ง ๆ ข้อมือก็บิด เกร็งหัวไหล่มาก ๆ ท่าวิ่งตลกสุด ๆ ^O^
เจี๊ยบวิ่งยังไงก็แก้ไม่ได้สักที ครูดินพยายามทุกวิถีทาง พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ก็คอยดู และบอกว่าต้องปรับตรงไหน แต่เจี๊ยบก็แก้ไม่ได้ เราก็วิเคราะห์กัน หรือเป็นเพราะรองเท้าเจี๊ยบ โทษรองเท้าซะงัน 555 ^O^
เพราะคนอื่นก็ฝึกกระโดดเหมือนกัน ไม่เห็นเสียงดังแบบเจี๊ยบเลย พี่สาวคนหนึ่งเลยบอกว่าหรือเป็นเพราะรองเท้า เจี๊ยบเลยให้พี่สาวลองรองเท้าและกระโดดดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่รองเท้าแล้วหล่ะ เพราะพี่สาวเจี๊ยบกระโดดได้นุ่มมาก ไม่กระแทรกแบบเจี๊ยบเลย สุดยอดมากอ่ะ ตอนนั้นเจี๊ยบทึ่งมาก 555 (เวอร์อีกแล้ว ^O^)
ทีนี้ก็รู้แล้วสาเหตุที่วิ่งกระแทรกไม่ใช่ที่รองเท้าแล้ว แต่มันเกิดจากตัวเจี๊ยบเอง เจี๊ยบกะการถ่ายน้ำหนักไม่ถูก เจี๊ยบจับจังหวะไม่ได้ และเจี๊ยบก็จะถูกให้กระโดดคนเดียว มันเหนื่อยสุด ๆ เลย แต่ก็กระโดดจนเจี๊ยบเริ่มรู้แล้วว่า เบา ๆ คืออะไร กระโดดจนเจี๊ยบเริ่มปรับการหายใจได้ กระโดดจนจับจังหวะได้ คิดดูว่าเจี๊ยบจะกระโดดเยอะแค่ไหน กระโดดจนผอมเลยหล่ะ 555 ^O^
เหตุการณ์นี้ทำให้เจี๊ยบนึกทีไรก็ยิ้มออก เพราะถ้าเจี๊ยบทำไม่ได้ เจี๊ยบจะขอครูดินทำอีกรอบ และครูก็จะบอกว่า ทำไมไม่ทำให้ดีตั้งแต่เริ่มหล่ะ พอทำอีกรอบก็ดีขึ้น ครูดินก็บอกว่าทำดีก็ทำได้นิ ทำไมไม่ทำ ครูคงปวดหัวกับเจี๊ยบมากจริงๆ ยิ้มๆๆๆ 555 ^O^
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้แค่จะบอกว่า การจะปรับเปลี่ยนตัวเอง มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ เจี๊ยบฝืนตัวเองสุด ๆ ทำใหม่ไม่รู้กี่รอบ และเวลาฝึกในสิ่งที่คนอื่นมองงง ๆ ว่า เจี๊ยบทำอะไร มันตลกนะ เจี๊ยบยังขำตัวเองเลย แต่ก็ทำจากที่เคยโทษรองเท้า ตอนนี้ไม่แล้ว โทษตัวเองนี่หล่ะ เราทำไม่ได้เองอ่ะ ก็ฝึกไป ๆ ทำมันซ้ำ ๆ บ่อย ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ แนะนำอะไร เจี๊ยบก็ทำหมด จนตอนนี้ มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเจี๊ยบ Transformer มากอ่ะ มันรู้สึกดีใจมากจริง ๆ จากรถคุณปู่ เปลี่ยนมาเป็นรถสปอต 555^O^
คนที่เริ่มต้นวิ่ง เราต้องรู้ก่อนเราวิ่งเผื่ออะไร เราจะสนุกขึ้นเยอะเลย ถ้าเรารู้มาเราวิ่งเพื่ออะไร และเห็นตัวเองค่อย ๆ พัฒนาขึ้น ไม่ใช่แค่ร่างกายที่แข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่จิตใจเราก็เข้มแข็งขึ้นด้วย เจี๊ยบเล่าจากใจ จริง ๆ นะ ^O^
Norarat jeab
7-08-57
วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ใจ ใจ ^O^
ใจ ใจ ^O^
ภาษาอังกฤษ จะมีขั้นกว่า กับขั้นสูงสุด ขั้นกว่าคือการเปรียบเทียบของ 2 สิ่ง ขั้นสูงสุดคือการบอกว่าสิ่งนี้คือสุดยอดแล้ว คือที่สุดแล้ว
ฉันไม่ชอบการถูกเปรียบเทียบเลย ไม่รู้สินะ มันรู้สึกแย่มากเลย จริง ๆ นะ คงเป็นเพราะฉันมีจิตใจไง ^O^
แต่ถ้าเป็นการเปรียบเทียบสิ่งของ 2 สิ่ง สิ่งนี้สวยกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้ดีกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้นุ่มกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้สบายกว่าสิ่งนี้ สิ่งของจะไม่บ่นน้อยใจแน่ ๆ ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ ถ้ามันบ่นได้นี่ ก็ตัวใครตัวมัน 555 ^O^
แต่คนเรามีจิตใจ ไม่มีใครอยากดูแย่กว่าใคร ไม่มีใครอยากอ่อนแอกว่าใคร ไม่มีใครอยากเศร้ากว่าใคร ไม่มีใครอยากเสียใจกว่าใคร มันเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ของการเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
ทุกคนอยากมีจุดยืน และไม่อยากถูกเปรียบเทียบ แต่เราก็ชอบเปรียบเทียบกันอยู่เสมอ ทำไมอ่อนแอแบบนี้ ทำไมเยอะแบบนี้ ทำไมไม่เข้มแข็ง ถ้าเป็นฉันนะ....^O^
สิ่งหนึ่งที่ฉันเรียนรู้มาคือ เพราะเราไม่ใช่เขาไง เพราะเราไม่ได้เจอแบบนั้น และเพราะเราไม่ใช่คนที่โดนกระทบจิตใจ เราไม่รู้หรอกความเจ็บปวดของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน สักวันถ้าเขาเข้มแข็ง และยอมรับได้ เขาจะก้าวผ่านไปได้ด้วยตัวเอง และมันอยู่ที่เขาเลือกเองว่าจะเจ็บปวดแบบนี้ หรือจะก้าวเดินออกมามันก็แค่นั้น
ทุกคนมีคำตอบอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าพร้อมไหม รับความจริงได้ไหม และต้องตัดสินใจด้วยตัวเองนะ เมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา ก็เราเลือกเองนิหน่า ^O^
ทุกคนมีความเก่งในตัวอยู่แล้ว ไม่มีใครด้อยกว่าใครเลย เรามีจุดดีที่เป็นแบบเราเนียหล่ะ เรียนรู้จากคนเก่ง เรียนรู้วิธีคิด และเราก็มาทำสิ่งดี ๆ ให้ตัวเราดีกว่า สักวันเราก็จะเก่งเอง จริงๆ นะ ^O^
ฉันก็ยังไม่เก่งหรอก ฉันต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย จะดีมากจริง ๆ นะ ถ้าฉันมีความสุขกับสิ่งที่ฉันเรียนรู้ และสนุกกับสิ่งที่ฉันทำ ไม่คิดเอาชนะใคร แต่ชื่นชมเขาดีกว่า เพราะการที่จะเป็นคนเก่งได้ นั่นหมายถึงเขาต้องผ่านอะไรมาเยอะนะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ นับถือเขาและนำสิ่งดี ๆ จากเขามาเรียนรู้ และขอบคุณเขาจากใจดีกว่า ^O^
มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกัน ช่วยเหลือกันที่เราช่วยได้ และปล่อย ๆ วางออกไป หากเราทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่ก่อนที่จะปล่อยวาง เราเต็มที่แล้วนะ มันก็แค่นั้นเอง ^O^
Norarat jeab
7-08-57
ภาษาอังกฤษ จะมีขั้นกว่า กับขั้นสูงสุด ขั้นกว่าคือการเปรียบเทียบของ 2 สิ่ง ขั้นสูงสุดคือการบอกว่าสิ่งนี้คือสุดยอดแล้ว คือที่สุดแล้ว
ฉันไม่ชอบการถูกเปรียบเทียบเลย ไม่รู้สินะ มันรู้สึกแย่มากเลย จริง ๆ นะ คงเป็นเพราะฉันมีจิตใจไง ^O^
แต่ถ้าเป็นการเปรียบเทียบสิ่งของ 2 สิ่ง สิ่งนี้สวยกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้ดีกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้นุ่มกว่าสิ่งนี้ สิ่งนี้สบายกว่าสิ่งนี้ สิ่งของจะไม่บ่นน้อยใจแน่ ๆ ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ ถ้ามันบ่นได้นี่ ก็ตัวใครตัวมัน 555 ^O^
แต่คนเรามีจิตใจ ไม่มีใครอยากดูแย่กว่าใคร ไม่มีใครอยากอ่อนแอกว่าใคร ไม่มีใครอยากเศร้ากว่าใคร ไม่มีใครอยากเสียใจกว่าใคร มันเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ของการเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
ทุกคนอยากมีจุดยืน และไม่อยากถูกเปรียบเทียบ แต่เราก็ชอบเปรียบเทียบกันอยู่เสมอ ทำไมอ่อนแอแบบนี้ ทำไมเยอะแบบนี้ ทำไมไม่เข้มแข็ง ถ้าเป็นฉันนะ....^O^
สิ่งหนึ่งที่ฉันเรียนรู้มาคือ เพราะเราไม่ใช่เขาไง เพราะเราไม่ได้เจอแบบนั้น และเพราะเราไม่ใช่คนที่โดนกระทบจิตใจ เราไม่รู้หรอกความเจ็บปวดของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน สักวันถ้าเขาเข้มแข็ง และยอมรับได้ เขาจะก้าวผ่านไปได้ด้วยตัวเอง และมันอยู่ที่เขาเลือกเองว่าจะเจ็บปวดแบบนี้ หรือจะก้าวเดินออกมามันก็แค่นั้น
ทุกคนมีคำตอบอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าพร้อมไหม รับความจริงได้ไหม และต้องตัดสินใจด้วยตัวเองนะ เมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา ก็เราเลือกเองนิหน่า ^O^
ทุกคนมีความเก่งในตัวอยู่แล้ว ไม่มีใครด้อยกว่าใครเลย เรามีจุดดีที่เป็นแบบเราเนียหล่ะ เรียนรู้จากคนเก่ง เรียนรู้วิธีคิด และเราก็มาทำสิ่งดี ๆ ให้ตัวเราดีกว่า สักวันเราก็จะเก่งเอง จริงๆ นะ ^O^
ฉันก็ยังไม่เก่งหรอก ฉันต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย จะดีมากจริง ๆ นะ ถ้าฉันมีความสุขกับสิ่งที่ฉันเรียนรู้ และสนุกกับสิ่งที่ฉันทำ ไม่คิดเอาชนะใคร แต่ชื่นชมเขาดีกว่า เพราะการที่จะเป็นคนเก่งได้ นั่นหมายถึงเขาต้องผ่านอะไรมาเยอะนะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ นับถือเขาและนำสิ่งดี ๆ จากเขามาเรียนรู้ และขอบคุณเขาจากใจดีกว่า ^O^
มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกัน ช่วยเหลือกันที่เราช่วยได้ และปล่อย ๆ วางออกไป หากเราทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่ก่อนที่จะปล่อยวาง เราเต็มที่แล้วนะ มันก็แค่นั้นเอง ^O^
Norarat jeab
7-08-57
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)

























