ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

จากความฝันสู่ความจริง จอมบึงมาราธอน มาราธอนแรกของฉัน ^O^ ตอนที่ 3 (วันแข่งจริง 18-01-58)

จากความฝันสู่ความจริง จอมบึงมาราธอน มาราธอนแรกของฉัน ^O^ ตอนที่ 3 (วันแข่งจริง 18-01-58)











ในคืนก่อนวันแข่ง ฉันเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม มาสะดุ้งตื่นอีกที่เกือบเที่ยงคืน แล้วก็นอนกลิ่งไปกลิ่งมาจนถึงตีหนึ่ง ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุด แล้วก็โหลดอาหาร จะนอนต่อก็นอนไม่หลับ พอตี 2 พี่ ๆ ที่พักกับฉัน (พี่นก กับพี่อ้อ) ก็ตื่นมาเตรียมตัวไปวิ่ง ^O^

ฉันใส่เสื้อแขนยาวสีเขียวตัวเก่ง แล้วก็สวมเสื้อสามารถที่ได้รับมาจากแอดมิน ติดbib เรียบร้อย สวมกางเกงตัวเก่ง คาดเข็มขัดใส่มือถือและเงิน ใส่ถุงเท้าสีดำ สวมรองเท้า ST 5 พร้อมทั้งเตรียมเป้ที่ใส่ชุดไปเปลี่ยนหลังวิ่งเสร็จ เพราะอากาศที่จอมบึงในเช้านั้นหนาวมาก วิ่งเสร็จฉันคงจะหนาวมาก จึงเตรียมไปด้วย

เมื่อพร้อมออกรบแล้ว พี่ ๆ ก็พร้อมแล้ว พวกเราจึงออกเดินทางไปที่จุดปล่อยตัวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก พวกเราโชคดีมากที่อ.ณรงค์ เทียมเมฆ ได้จองที่พักในม.ราชภัฏ จอมบึงให้ ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 500 ม. ก็ถึงจุดปล่อยตัว

ตี 3 เป็นเวลาที่ครูดินนัดหมายให้ผู้อยู่รอดทั้ง 70 ชีวิตไปวอร์มด้วยกัน ก่อนที่จะออก start ในเวลาตี 4 พอเจอครูแล้ว ฉันก็เอาเป้ที่ใส่ชุดมาเปลี่ยนไปฝากที่จุดรับฝากของ เสร็จแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ ออกมาแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปวอร์ม

ฉันก็วอร์มโดยการวิ่งเยาะ ๆ 1 กม. เสร็จแล้วก็มากระโดด ๆ เต้น ๆ กระตุ้นหัวใจ เสร็จแล้วก็ไปสไตร์ด 50 เมตร 5 รอบ ดริว 5 ท่า ท่าละ 2 รอบ แล้วต่อด้วยสไตร์ดอีก 3 รอบ แล้วไปเช็คอิน ยืดเหยียดไม่ทันแล้ว อีก 10 นาทีจะปล่อยตัว ฉันต้องรีบไปเช็คอิน งานนี้ฉันยืดเหยียดน้อยมาก นี่คือความประมาทของฉันเอง แต่ไม่มีเวลาคิดมาก รีบไปเช็คอินและไปจุดปล่อยตัว ซึ่งคนเยอะสุด ๆ เลย ปีนี้คนวิ่งมาราธอนเกือบ 2000 คน

ฉันแทรกตัวเดินไปเรื่อย ๆ จนได้อยู่กลาง ๆ แล้วสายตาฉันก็มองไปเห็นครูดินกับพี่ออมยืนอยู่ตรงรั้วเหล็ก ฉันจึงแทรกตัวไปหาแล้วกอดครูดินกับพี่ออม ครูบอกว่าไม่ต้องคิดมาก ทำให้ได้แบบที่ซ้อมก็พอแล้ว เจี๊ยบ สู้ สู้ แล้วครูก็ยิ้มให้ฉัน ฉันบอกพี่ออมว่าหาพี่นกไม่เจอเลย แต่เดี๋ยวคงไปเจอกันในสนาม แล้วพี่ออมก็ยิ้มให้ฉัน บอกว่าเจี๊ยบทำได้อยู่แล้ว ฉันยิ้มให้พี่ออม แล้วสัญญาณปล่อยตัวก็ดังขึ้น เสียงนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 แล้วฉันก็พุ่งออกไป ^O^

วิ่งออกไปสักพักฉันก็เจอหมอรัตน์ เราทักกับแป๊บนึง แล้วฉันก็วิ่งออกไป เจอลูกโป้งเพซ 5.00  ชม. ฉันก็ค่อย ๆ วิ่งไปเรื่อยจนแซงลูกโป้งขึ้นมาได้ แล้วฉันก็เจอพี่กรีนเราทักกันแป๊บหนึ่งแล้วพี่กรีนก็วิ่งทะยานออกไป ฉันก็วิ่งของฉันพยายามคุมจังหวะ คุมลมหายใจ จับความรู้สึกตัวเองตลอด ผู้คนก็ค่อย ๆ แซงฉันไป คนที่รู้จักฉันก็ส่งเสียงบอกเจี๊ยบสู้ ๆ คนที่ฉันไม่รู้จัก แต่เขาก็บอกว่าเจี๊ยบสู้ ๆ ฉันคิดในใจเขารู้จักฉันได้ไง แล้วฉันก็นึกได้ว่า Bib วัดใจที่แอดมินกับครูดินทำให้นั้นเอง แอดมินให้เลือก 3 คำ ที่จะให้ตัวเองวิ่งรอดมาราธอนครั้งนี้ได้  Bibของฉันจึงออกมาเป็น "เจี๊ยบ สู้ สู้" เพราะทุกครั้งเวลาฉันวิ่งแล้วเหนื่อยสุด ๆ ฉันก็บอกตัวเองแบบนี้ ^O^

ประมาณกม.ที่ 7 พี่เคก็ตามฉันทันแล้วก็ถามฉันว่า "เจ็บหรอ ? วิ่งเหมือนเจ็บ ๆ เลย "ฉันบอกพี่เคว่า "ไม่เจ็บค่ะ" แต่จริง ๆ ก็เริ่มมีอาการเจ็บที่ข้อเท้าขวา แล้วก็ปวด ๆ ตึง ๆ เข่าซ้าย แต่ฉันอาจมโนว่าเจ็บไปเองก็ได้มั้ง คงไม่ได้เจ็บจริง ๆ หรอก ฉันเลยบอกพี่เคว่าไม่เจ็บ แล้วพี่เคก็วิ่งจากฉันไป

บรรยากาศในสนามวิ่งน่ารักมาก มีกองเชียร์จากเด็ก ๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่ และยังมีพระมาพรมน้ำมนต์ให้ด้วย มีเด็กมายืนแตะมือนักวิ่ง คอยให้กำลังใจช่วยให้ลืมความเหนื่อยไปได้แป๊บนึง วิ่ง ๆ ไปสักพักประมาณกม.ที่ 10 พี่กุ๊กก็ตามมาทัน พี่กุ๊กมาช่วยชีวิตฉันในตอนนั้นเลย เพราะฉันเร่งแทบไม่ขึ้น ความเร็วค่อย ๆ ตก อาการเจ็บข้อเท้าก็ยังอยู่แต่ไม่หนักมาก พี่กุ๊กถามว่า "เอายาไหมพี่มี?" ฉันบอกว่า "ไม่เป็นไรเจี๊ยบยังไหว แต่เจี๊ยบขอเกาะพี่กุ๊กไปด้วยนะ" แล้วเราก็วิ่งเกาะกันไปเงียบ ๆ

ฉันแวะกินน้ำบ้างบางจุด แต่พี่กุ๊กแทบไม่กินเลย พอกินเสร็จฉันก็รีบตามพี่กุ๊ก แล้วเราก็ผลักกันเร่ง ผลักกันเกาะ ฉันสนุกมาก เล่นกันพี่กุ๊กไปเรื่อย ๆ เฮียลิฟก็ตามพวกเรามาทัน ทักกันสักพักพวกเฮียลิฟก็นำไป ฉันกับพี่กุ๊กยังวิ่งเล่นกันอย่างเงียบ ๆ แต่ตอนนั้นข้อเท้ากับเข่าฉันไม่เจ็บแล้ว มหัศจรรย์มากจริง ๆ คงเป็นเพราะฉันสนุกมาก การวิ่งกับพี่กุ๊กทำให้ฉันไม่เหงาเลย ^O^

พี่กุ๊กพาฉันค่อย ๆ เก็บคนที่แซงฉันไปที่ละคน 2 คน จนกระทั้งตามพวกเฮียลิฟทัน เฮียลิฟยังส่องไฟนำทางให้ฉันด้วย ไม่งันฉันกับพี่กุ๊กอาจสะดุดหกล้มได้ เพราะมีจุดมืดที่ถนนแตก แต่พวกเราก็ผ่านมาได้อย่างปลอดภัย

เราวิ่งเกาะ ๆ กันไป จนเห็นนักวิ่งคนแรกที่กลับตัวมาเป็นคนไทย พวกเราตบมือให้กำลังใจกันใหญ่ แล้วตามมาด้วยนักวิ่งต่างชาติ วิ่งไปเรื่อย ๆ ถึงก็กม.ที่ 20 ฉันกับพี่กุ๊กดีใจมาก ในใจคิดว่าจุดกลับตัวคงอยู่อีกไม่ไกล  พอประมาณ กม. 22 ฉันกับพี่กุ๊กก็ยังไม่ได้กลับตัว แถมมีเนินใหญ่อยู่ข้างหน้าอีก จุดกลับตัวอยู่ไหนนะ ฉันเริ่มบ่น แต่วิวตรงนี้สวยมาก เป็นไร่อะไรไม่รู้ แล้วก็มีภูเขาล้อมรอบ สวยจัง อากาศก็ดีเย็นสบาย แต่ฉันเหนื่อย ฉันอยากกลับตัวแล้ว บ่น ๆๆๆ วิ่งมาสักพักก็เจออ๊อค พี่นกกับหมอเบียร์ ^O^

เราวิ่งกันมาจนถึงกม.ที่ 24 ก็เห็นป้ายจุดกลับตัว ทุกคนดีใจกันใหญ่เลย ผ่านจุดเช็คพ๊อย วิ่งด้วยกันมาสักพักกลุ่มเริ่มแตก ตอนนี้ฉันวิ่งกับพี่กุ๊ก อ๊อค แต่พอเข้ากม.ที่ 28 แรงฉันมาจากไหนไม่รู้ ฉันคอย ๆ วิ่งนำไปเรื่อย ๆ ความเร็วมันมาเอง จากเพซ 6.30 ก็มาอยู่ที่ 6.00 แล้วก็ค่อย ๆ ไต่มาเพซ 5 ฉันคิดว่าฉันน่าจะคุมตัวเองไหว พอวิ่งเข้ากม.ที่ 32 แรงค่อย ๆ ตก ฉันวิ่งมาจนถึงกม.ที่ 35 ฉันรู้เลยว่าขาฉัน มันเริ่มหนัก และคิดว่าตะคิวกำลังจะมาแน่ ๆ แต่ฉันก็ฝืนจ๊อกไปเรื่อย ๆ ประคองไป จนเจอกับพี่ป๊อบกับพี่ชุโดยบังเอิญ แต่ฉันเหนื่อยมากจริง ๆ พี่ ๆ ทักฉัน ตอนนั้นฉันรู้สึกขอบคุณและดีใจที่เจอกัน พี่ ๆ ยังให้กำลังใจฉัน ฉันบอกพี่ ๆ ว่าฉันหยุดวิ่งไม่ได้ ไม่งั้นขาฉันก้าวไม่ออกแน่ ๆ แล้วฉันก็จากไป (ต้องขอโทษพี่ชุกับพี่ป๊อบด้วยคราวนี้ไม่ได้เซลฟี่ด้วยเลย ดีใจที่เจอพี่ ๆ ที่สนามนะคะ ^O^)

พอถึงกม.ที่ 39 พี่กุ๊กก็ตามมาทันและวิ่งแซงไป แต่ฉันไม่มีแรงตามพี่กุ๊กแล้ว ขามันหนักไปหมด ได้แต่จ๊อกประคอง ๆ ไปเรื่อย ๆ ดีที่ฉันซ้อมจ๊อกไหล ๆ มาดี จึงยังประคองตัวเองได้ กม.ที่ 40 โปร์รุจน์มาดักถ่ายรูปนักวิ่ง โชคดีน้องฮอนด้าแห่งเคซี่ รันนิ่งบอกฉันให้จัดท่าวิ่งดี ๆ กล้องอยู่ข้างหน้ายิ้ม ๆไว้ รูปที่ได้จึงดูดีมาก อิอิ ^O^(ขอบคุณน้องฮอนด้ามาก ๆ นะคะ)

ถัดจากกล้องโปร์รุจน์ก็เจอกล้องพี่ตุ้ม กล้องน้องแก๊ป กล้องพี่ปุ้ย กล้องrefill ฯลฯ ฉันดีใจมากแสดงว่าอีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัยแล้ว จึงทำท่าดีใจได้รูปสวยสมใจเลย วิ่งยิ้มมาเรื่อย ๆ เจอแอดนก แอดบิว บอกว่า "อีกนิดเดียว เลี้ยวโค้งก็จะถึงแล้ว" แรงฉันกลับมาทันที วิ่งยิ้มมาเรื่อย ๆ เจอเพ้น เพ้นถามถึงพี่นก ฉันบอกเพ้นว่า "อยู่ข้างหลังกำลังตามมาค่ะ" เพ้นบอกว่า"อีก 400 เมตรเอง เจี๊ยบอีกนิดเดียว สู้ ๆ" วิ่งไปคุยไปฉันไม่ได้หยุดวิ่งเลย วิ่งยิ้มมาเรื่อย ๆ เห็นเส้นชัย เห็นครู เห็น พี่ ๆ เพื่อน ๆ สถาวรฯ ฉันยิ้มไม่หุบเลย แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มีคุณน้าผู้ชายวิ่งตามฉันมาจะทันแล้ว ในขณะที่เส้นชัยอยู่ข้างหน้า ไม่ถึง 30 เมตร ฉันเลยรีบวิ่งหนีเข้าเส้นชัยเลย รีบวิ่งไปหาครูดิน รับผ้าเช็คหน้าจากครู รับดอกไม้จากแอดแพค แล้ววิ่งไปกอดพี่ ๆ เพื่อน ๆ แล้วก็วิ่งไปรับเหรียญ กับเสื้อฟิชนิชเชอร์ ฉันดีใจสุด ๆ เลย ฉันทำได้แล้ว^O^

ฉันวิ่งจบมาราธอนแรกของฉันด้วยเวลา 4.43  ชม. ได้อันดับที่ 18 ในรุ่นอายุ30-35ปี ได้อันดับที่ 688 จากนักวิ่งทั้งหมดที่มาวิ่งมาราธอนวันนั้น ได้สัมผัสถึงตะคิว แต่ก็ฝืนตัวเองวิ่งต่อ ได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ทุกคนต่างก็เต็มที่เพื่อไปให้ถึงเส้นชัย ได้สัมผัสถึงน้ำใจจากเพื่อน ๆ นักวิ่ง ถึงแม้ไม่รู้จักกัน แต่ก็ส่งน้ำให้ฉัน ให้กำลังใจฉัน ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่อบอุ่นจากชาวบ้านที่เต็มใจและยินดีให้พวกเราไปวิ่ง ไม่มีเสียงบีบแตร์ไล่เลย ดีใจที่สุดถึงที่สุดที่ได้มาวิ่งมาราธอนจริง ๆ สักที ^O^

แล้วสุดท้ายครูดินกับแอดมินทั้ง 3 ยังเซอร์ไพส์พวกเราทั้ง 70 คน ด้วยการมอบถ้วยรางวัลผู้พิชิตให้ด้วย ฉันวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 31 ดีใจมากจริง ๆ ขอบคุณครูดิน ขอบคุณแอดมินทั้ง 3 คน ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้กำลังใจฉัน และสุดท้ายขอบคุณตัวฉันเอง ที่ทำให้ฝันฉันเป็นจริง ขอบคุณทุก ๆ คนจากใจค่ะ ^O^

ในวันนั้นฉันมีความสุขมาก ๆ จริง ๆ นะ และก็ประทับใจมาก ๆ ฉันได้ข้อคิดดี ๆ ว่า "ถ้าเราเต็มที่ เราไม่หยุดวิ่ง เราไม่ท้อ เราไม่ยอมแพ้ไปสักก่อน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน เราก็จะไปถึงเส้นชัยในที่สุด แม้ว่าระยะทางจะไกลแค่ไหนก็ตาม ^O^"

ตอนนี้ฉันก็ยังไม่เก่งหรอก ฉันยังต้องเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอีกเยอะ

สู้ต่อไปนะเจี๊ยบ สักวันเจี๊ยบก็จะไปถึงเส้นชัยในที่สุด ยิ้มๆๆๆ ^O^

Norarat Jeab
23-01-58

เพิ่มเติมเพซ ตลอด 42 กม.ของเจี๊ยบ ^O^
6.40/6:33/6:44/6:51/6:42/6:39/6:49/6:44/
6:51/7:24/6:53/6:42/6:40/6:42/6:45/6:52/
6:41/6:41/6:40/6:44/6:30/6:29/6:25/6:48/
6:26/6:07/6:27/6:37/6:26/6:11/6:03/5:45/
5:40/5:58/6:30/6:37/6:59/7:33/7:08/7:46/
8:08/7:24/6:38

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น