ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แนวคิด ปรัชญา ฉันหล่ะงง ^O^

แนวคิด ปรัชญา ฉันหล่ะงง ^O^

ฉับจบตรีสาขารัฐประสานศาสตร์ มันจะมีวิชาความรู้พื้นฐานการเมืองการปกครองเบื้องต้น ก็จะเรียนปรัชญาต่าง ๆ วิธีคิด ของแต่ละคน

ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก คิดดูนะ อย่างคำว่า บรูณาการ หรือ คำว่า นิติรัฐ ก็จะมีการอธิบายความหมายจากนักปรัชญาแต่ละคน บางท่านก็ให้ความหมายสอดคล้องกัน บางท่านก็ขัดแย้งกัน ชีวิต! แล้วฉันจะเชื่อใครดีเนีย 555 ^O^

ภาษานักปรัชญามักจะงง ๆ เราต้องตีความ เพื่อเวลาสอบเราจะได้ตอบและอ้างอิงถูก ก็ทำความเข้าใจกันไป

ฉันเป็นเด็กไม่ชอบอ่านหนังสือเลย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว มันจำเป็น ไม่อ่านเราจะไม่รู้เรื่อง ก็เลยต้องอ่าน แล้วก็ตอบไปตามความเข้าใจในแบบของเรา อาจารย์คงฮามากกับคำตอบของฉัน คืออะไรที่แว๊บเข้ามาให้หัว ฉันใส่หมด เขียนไปก่อน ดีกว่าไม่เขียนอะไรเลย

ฉันก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด แต่ก็มาตกวิชา นโยบายสาธารณะ ติด F ต้องเรียนใหม่ ฉันก็พลาดเองหล่ะ คงตอบไม่โดนใจ หรือไม่ตรงประเด็น ก็เลยต้องลงเรียนอีกครั้งขณะฝึกงานไปด้วย

การได้เรียนวิชานโนบายสาธารณะถึง 2 ครั้ง ทำให้ฉันเข้าใจ และได้เกรด b+ มาได้แบบงง ๆ ^O^

จริง ๆ แล้วหลักการ คือการทำอะไรก็ได้ เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ เพื่อส่วนรวม เพื่อให้สังคมเป็นสุข เราลงทุนได้ทุกอย่าง ถ้าทำแล้วคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รัฐจะต้องทำ และก็ควรจะทำด้วย ถือว่าคุ้มค่า ไม่หวังผลตอบแทนในรูปตัวเงิน แต่วัดจากความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น การใช้ชีวิตดีขึ้น ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

นโยบายสาธารณะ ไม่เหมือนนโนบายของธุรกิจ มันต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียวเชียว ผลประโยชน์ขององค์กร กับผลประโยชน์ของประเทศชาติมันเปรียบกันไม่ได้ หลักการบริหารก็ต่างกันแล้ว จริง ๆ นะ ^O^

นโยบายสาธารณะต้องทำเพื่อให้คนในประเทศมีความสุขเพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และเป็นสังคมที่ดีที่เข้มแข็งได้

นโยบายของธุรกิจคือ ทำยังไงก็ได้ให้องค์กรอยู่ได้ประสิทธิภาพ กับประสิทธิผล  ขึ้นอยู่กับองค์กรว่าจะให้ความสำคัญกับอะไร ไม่สนว่าคนในองค์กรจะมีความสุขหรือความเป็นอยู่ยังไง จะถูกกดดันขนาดไหน เราก็ต้องช่วยกัน ทำงานให้เต็มที่และได้กำไรเต็มๆ องค์กรรอดเราก็จะได้ผลตอบแทนคือโบนัส พอใจแล้วแค่นี้ แล้วก็ทำงานกันต่อแบบไร้ชีวิตชีวา ความสุขคือรอลุ้นโบนัสสิ้นปี ^O^

ฉันก็ไม่ใช่คนเก่ง หรือจะเป็นนักปรัญญา ก็คงไม่ได้ ฉันยังอยากพูดภาษาที่คนธรรมดาเข้าใจได้ มันสนุกกว่าเยอะ กว่าที่ฉันจะเข้าใจว่า ประสิทธภาพกับประสิทธิผล มันคืออะไร?  และมันต่างกันยังไง ? ฉันก็มึนสุด ๆ แล้วหล่ะ ชีวิต ! ทำไมมันยากแบบนี้ คนธรรมดาแบบฉันเนีย จะเข้าใจไหมเนีย 55 ^O^

จริง ๆ มันต่างกันตรงที่ตัวชีวัด ที่เขามักเรียกกันว่า KPI ว่าแต่ KPI คืออะไร ? งานเข้าอีกแล้ว 555

ดัชนีชีวัดไง 555 ฉันตอบแบบนี้จะเข้าใจไหม ?

เอาง่าย ๆ ก็ได้ ประสิทธิภาพอ่ะ จะเน้นการทำงานที่ดีที่สุด ทำแล้วได้ผลลัพท์ที่มีคุณภาพสุด ๆ ดีที่สุด ด้วยวิธีการที่ดีที่สุด และใช้เวลาได้คุณค่าที่สุด และเขาจะรู้ว่ามันดีที่สุดหรือไม่? ก็ดูจากดัชนีชีวัดหรือ KPI ไง? ค่าที่ได้ออกมามันจะฟ้องด้วยตัวมันเองหล่ะ ^O^

ส่วนประสิทธิผล ก็คือ จะเน้นที่ผลลัพธ์ ทำแล้วได้ผลลัพธ์ส่งทันเวลา คุณภาพปานกลางก็ได้ แต่เราต้องตรงเวลา มีของส่งทันชัวร์ ทำยังไงก็ได้ให้เสร็จทันเวลา อะไรประมาณนี้

ตามที่ฉันเข้าใจนะ มันก็แค่นี่หล่ะ แต่กว่าจะเข้าใจฉันก็งงอยู่นานเลย 555

สรุปนะ มันก็เป็นแค่หลักการเท่านั้นเอง แต่ถามว่าฉันทำได้ไหม ฉันก็ไม่รู้ 555 ก็มันเป็นหลักการไง ส่วนทำได้หรือไม่มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และคนส่วนใหญ่ รวมถึงตัวฉันด้วย ไม่ค่อยได้ทำหรอก คิดได้นะ แต่ทำหรือไม่เป็นอีกเรื่อง หรือคนที่คิดไม่ได้เป็นคนทำ ส่วนคนที่ทำก็ไม่ได้คิด ก็มันเป็นแบบนี้จริง ๆ นะ ฉันหล่ะ ฮามาก เอาน่า ขำๆๆๆ นะคะ ^O^

Norarat jeab
25-07-57




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น